วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำตกทีลอซู

ทีลอซูเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และสวยที่สุดในประเทศไทย และยังได้รับคำกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ค่ะ

คำว่า ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยงค่ะ ที่ตั้งชื่อเป็นภาษากะเหรื่ยงก็เนื่องมาจากน้ำตกนี้ชาวกะเหรี่ยงเป็นผู้ค้นพบค่ะ ซึ่ง คำว่าทีลอซู แปลว่า น้ำตกใหญ่หรือน้ำตกดำค่ะ

น้ำตกทีลอซูเป็นน้ำตกที่ซ่อนอยู่ในหลืบผาอันกว้างใหญ่ เกิดจากน้ำที่ไหลจากห้วยกล้อท้อไหลลงมาจากหน้าผาหินปูนค่ะ ห้วยน้ำแห่งนี้มีต้นกำเนิดอยู่บนดอยผะวี ซึ่งเป็นแนวชายแดนกั้นระหว่างไทยและพม่า จากนั้นจึงไหลมาลงที่ปากห้วยบ้านแม่กลอง ต.ละมุ้ง อ.อุ้มผาง

--------------------------------------********************-------------------------------------




ที่ตั้ง
        น้ำตกทีลอซูตั้งอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ห่างจาก อ.แม่สอดประมาณ ๒๐๐ กม. ค่ะ ตัวน้ำห่างจากที่ทำการเขตฯ ประมาณ ๑.๘ กม. ด้วยเหตุนี้จึงมีกฎระเบียบในการเที่ยวชมซึ่งแตกต่างจากอุทยานแห่งชาติทั่วๆ ไป ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบนี้อย่างเคร่งครัดค่ะ



ประวัติ
        น้ำตกทีลอซูได้รับการค้นพบเมื่อประมาณ ๓๐ กว่าปีก่อน โดยพรานชาวกะเหรี่ยงคนหนึ่งซึ่งเดินทางเข้ามาล่าสัตว์ ก่อนที่ทากรมป่าไม้จะประกาศให้ผืนป่าบริเวณนี้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาน ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๒๘ อาจารย์ปรีชา อินทวงศ์ ได้พาบุคลากรของนิตยสารท่องเที่ยวแคมป์ปิ้งเ้ข้าไปสำรวจบริเวณน้ำตก หลังจากนั้นเป็นต้นมาน้ำตกทีลอซูก็เป็นที่รู้จัก



ฤดูกาลท่องเที่ยว
        น้ำตกทีลอซูนั้นมีความสวยงามในทุกฤดูค่ะ แต่ที่สวยงามเป็นพิเศษ คือ ช่วงฤดูฝนค่ะ ฤดูกาลเที่ยวน้ำตกทีลอซูแบ่งได้เป็น ๒ ช่วง คือ

๑.     เดือนธันวาคม-พฤษภาคม ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูหนาว-ฤดูร้อน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้โดยทางรถยนต์ ซึ่งจะสามารถเข้าไปถึงที่ทำการเขตฯ ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกทีลอซูเ้พียง ๑.๘ กม.ในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมาก ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ และแบบพักค้างแรม ณ ที่ทำการเขตฯ เนื่องจากเป็นช่วงที่เดินทางสะดวกค่ะ





๒.    เดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูฝนค่ะ ซึ่งในช่วงนี้น้ำตกจะมีความสวยงามเป็นพิเศษค่ะ  เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่มีมากจะเพิ่มปริมาณน้ำที่ไหลมาเป็นน้ำตก และทำให้น้ำตกทีลอซูมีความสวยงามและยิ่งใหญ่กว่าในฤดูอื่นค่ะ แต่ก็เป็นช่วงที่ทางเขตฯ ปิดเส้นทางรถยนต์เป็นระยะทาง ๒๖ กม. ที่เข้ามาในพื้นที่ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ทางได้ค่ะ และเพื่อเป็นการถนอมสภาพเส้นทางไม่ให้เสียหาย ผู้ที่อยากชมความงามของน้ำตกทีลอซู ควรซื้อบริการของบริษัททัวร์จะดีกว่าค่ะ ซึ่งจะเป็นการเดินทางด้วยเรือยางและเดินป่าอีกประมาณ ๑๒ กม. ค่ะ

         น้ำตกทีลอซูตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางเป็นระยะทางประมาณ ๑๘ กิโลเมตร ต้องเดินเข้าไป ซึ่งเส้นทางจะผ่านไปตามป่าไผ่และป่าเบญจพรรณ มีดอกกระเจียวขึ้นตามพื้นป่ามากพอสมควร ระหว่างเส้นทางมีป้ายสื่อความหมายธรรมชาติไว้ตามจุดต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาพืชพรรณและธรรมชาติไปด้วย ไม่ถึงกลางทางก็จะได้ยินเสียงน้ำตกแล้ว แต่ในฤดูที่น้ำมากเสียงน้ำตกจะดังไปถึงที่ทำการเขตฯ แสดงถึงพลังและความยิ่งใหญ่ของน้ำตกนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ

         เมื่อถึงบริเวณน้ำตก ละอองน้ำจะฟุ้งกระจายไปทั่วโขดหินเบื้องล่าง มองเห็นธารน้ำตกลงมาจากหน้าผาหินปูนซึ่งสูงประมาณ ๒๐๐ เมตร ตามแนวหน้าผาที่กว้างกว่า ๔๐๐ เมตร ท่ามกลางป่าเขียวครึ้ม อาจแบ่งธารน้ำตกได้เป็น ๓ กลุ่มค่ะ (หากคุณหันหน้าเข้าหาน้ำตก) คือ

- กลุ่มด้านซ้ายมือ เป็นกลุ่มที่ใหญ่และสูงที่สุด มีสายธารน้ำตกหลายสายไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเป็นเชิงอย่างสวยงาม จึงเป็นด้านที่สวยที่สุดค่ะ

- กลุ่มกลาง ไหลจากลงมาจากหน้าผาสูงชันใกล้เคียงกับกลุ่มซ้ายมือ แต่ไม่มีชั้นเชิงและแคบกว่า

- กลุ่มขวามือ ธารน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาที่เตี้ยกว่าสองกลุ่มแรก เมื่อมองทั้ง ๓ กลุ่มรวมกัน จึงทำให้น้ำตกทีลอซูมีความอลังการและสวยงาม อย่างในภาพที่ท่านได้เห็นค่ะ


          จากจุดฐานน้ำตก มีทางเดินไปจุดชมวิวบนยอดเขาฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะทำให้มองเห็นน้ำตกทีลอซูได้สวยงามและชัดเจนขึ้นค่ะ ใช้เวลาราว ๔๕ นาที ไป-กลับกว่า ๒ ชั่วโมง เพราะฉะนั้นควรจัดเวลาให้ดี โดยเฉพาะผู้มาเที่ยวโดยการเดินป่าและล่องเรือ ควรจัดโปรแกรมให้พักค้างคืน ณ ที่ทำการเขตฯ อย่างน้อย ๒ คืนค่ะ เพื่อจะได้ยลโฉมน้ำตกกันได้อย่างจุใจกันเลยทีเดียว



เส้นทางล่องเรือและเดินป่าสู่น้ำำตกทีลอซู


          สำหรับผู้ที่มาเที่ยวน้ำตกทีลอซูโดยการซื้อทัวร์ซึ่งจัดให้ล่องเรือยางจากห้วยอุ้มผางมาห้วยแม่กลอง ตามเส้นทางล่องเรือจะพบนกหลายชนิดเลยล่ะค่ะ เช่น นกกระเต็นใหญ่ธรรมดา นกติ๊ดสุลต่าน นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ ฯลฯ บางครั้งจะได้ยินเสียงชะนีร้องด้วยนะคะ สำหรับสองข้างฝั่งริมน้ำเป็นป่าไผ่และป่าดงดิบเขียวครึ้ม มีต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นกระตุก ไทร ฯลฯ ระหว่างทางยังผ่านสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเลยล่ะค่ะ ที่สวยงามที่สุดก็คือ "น้ำตกทีลอจ่อ" ค่ะ

- ผาโหว่ อยู่บนหน้าผาสูงชัน เป็นปากถ้ำอีกด้านหนึ่งของถ้ำตะโคะบิ

-น้ำตกทีลอจ่อ หรือ น้ำตกสายฝน เป็นหน้าผาหินปูนสูงชัน ซึ่งมีหินย้อยลงมา โดยมีธารน้ำไหลแตกกระเซ็นลงมาตามหน้าผาหินย้อยนี้เป็นละอองฝอยเล็กๆ คล้ายม่านน้ำท่ามกลางความเขียวขจีของป่าทึบ มีดงเฟิน มอสและตะไคร่ปกคลุมตามก้อนหินและบริเวณริมฝั่ง เป็นจุดที่มีความสวยงามอย่างยิ่งค่ะ



- น้ำตกสายรุ้ง อยู่ไม่ไกลจากน้ำตกทีลอจ่อเท่าใดนักค่ะ ลักษณะคลายทีลอจ่อ แต่ขนาดเล็กกว่า บางคนเรียกว่า "ทีลอจ่อน้อย" ค่ะ

- บ่อน้ำพุร้อน เป็นธารน้ำอุ่นสายเล็กๆ มีผู้ทำทำนบขนาดเล็กกั้นไว้เป็นอ่างน้ำให้ลงแช่เล่นได้ค่ะ

- แ่่ก่งตะโคะบิ เป็นแก่งแรกค่ะ มีลูกคลื่นเล็กน้อย

- ผาผึ้ง เป็นหน้าผาสูง ในอดีตมีผึ้งมาทำรังเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันไม่มีแล้วค่ะ

- ผาเลือด เป็นหน้าผาสูงสีแดงเหมือนอาบด้วยเลือด ติดต่อกันเป็นแนวยาวหลายร้อยเมตรค่ะ สันนิษฐานว่าเกิดจากแร่ธาตุบางอย่างในธรรมชาติที่ละลายมากับน้ำ จนทำให้เกิดเป็นสีแดงคล้ายสนิมเหล็กขึ้น บนหน้าผาจะมีต้นจันทน์ผาขึ้นค่ะ

- ผาบ่อง เป็นผาสูงมีช่องอยู่ตรงกลาง ลักษณะเป็นรูโหว่ใหญ่

- ท่าทราย มีหาดทรายขาวคล้ายเป็นท่าเรือทางธรรมชาติสำหรับขากลับ ถ้ามาลงเรือยางไป "สบแม่ละมุ้ง" ซึ่งเป็นจุดที่ลำห้วยแม่ละมุ้งไหลมาลงห้วยแม่กลอง จะผ่าน "แก่งมอแกโด้" เป็นแก่งที่มีหินก้อนใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำ แก่งใหญ่กว่าแก่งตะโคะบิ บริเวณสบละมุ้งจะเป็นบริเวณที่ขึ้นจากเรือ แล้วนั่งรถยนต์กลับเข้าอำเภออุ้มผางค่ะ แต่หากล่องเรือไปตามห้วยแม่กลองลงไปอีกก็จะถึงหมู่บ้านปะละทะค่ะ


          นอกจากการล่องเรือจากอุ้มผางมาที่ท่าทรายแล้วเดินไปน้ำตกทีลอซู น้ำท่องเที่ยวอาจเลือกโปรแกรมเส้นทางเดินป่าหรือขี่ช้างได้ค่ะ ซึ่งจะเดินทางจากหมู่บ้านปะละทะ มาแวะพักที่หมู่บ้านโขะทะ จากนั้นจึงเดินทางต่อไปถึงน้ำตกทีลอซู เส้นทางนี้จะได้สัมผัสกับวิูถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยงค่ะ ซึ่งคุณสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้กับทางบริษัททัวร์ค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น