บริเวณวัดดอยข่อยเขาแก้วเึึึคยมีชุมชนโบราณถึง ๒ สมัย คือ
๑.) กลุ่มชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย (ยุคโลหะ) ซึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อประมาณ ๒,๕๐๐-๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว โดยใช้พื้นที่รอบแม่น้ำปิงทำการเกษตรและจับสัตว์น้ำ การตั้งบ้านเรือนอยู่บนเนินสูงแห่งนี้ เพื่อป้องกันมิให้น้ำท่วมบ้านเรือนเสียหายในฤดูฝน ชุมชนแห่งนี้มีการปั้นเครื่องปั้นดินเผาและหล่อโลหะสำริดใช้ในชีวิตประจำวัน โดยมีหลักฐานเป็นหม้อและไหดินเผา เครื่องประดับและใบหอกสำริด เป็นต้น
๒.) ในสมัยอยุธยาซึ่งเมืองตากเรียกว่า "เมืองระแหง"
ภายในวัดดอยข่อยเขาแก้วมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่เป็นหลักฐานถึงความเก่าแก่ของเมืองตาก ซึ่งกรมศิลปากรได้ขุดค้นและบูรณะแล้วประกอบไปด้วย พระอุโบสถ ลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐ
ถือปูนแบบศิลปะอยุธยาตอนกลางถึงตอนปลาย ขนาด ๗.๒๗x๑๓.๕x๓.๓๐ เมตร มีลานประทักษิณและกำแพงแก้วล้อมรอบ ฐานก่ออิฐสำหรับวิหาร พลับพลาที่ประทับ พลับพลาสำหรับข้าราชบริวารตามเสด็จ เจดีย์รายสามองค์ และยังพบบ่อหมักปูนโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่าใช้สำหรับหมักปูนเพื่อทำปูนปั้นประดับพระอุโบสถและวิหาร
ถือปูนแบบศิลปะอยุธยาตอนกลางถึงตอนปลาย ขนาด ๗.๒๗x๑๓.๕x๓.๓๐ เมตร มีลานประทักษิณและกำแพงแก้วล้อมรอบ ฐานก่ออิฐสำหรับวิหาร พลับพลาที่ประทับ พลับพลาสำหรับข้าราชบริวารตามเสด็จ เจดีย์รายสามองค์ และยังพบบ่อหมักปูนโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่าใช้สำหรับหมักปูนเพื่อทำปูนปั้นประดับพระอุโบสถและวิหาร
สำหรับโบราณวัุตถุที่ขุดพบมีทั้งพระพิมพ์ดินเผา ใบหอก ดาบ เหล็ก เสียม และกรรไกรหนีบหมาก ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ที่จวนเก่าของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ยังไม่เปิดให้เ้ข้าชม หลังจากนั้นเมื่อพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ ททท.สำนักงานตาก แล้วเสร็จ จึงย้ายมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม
นอกจากนี้ภายในวัดดอยข่อยเขาแก้วยังเป็นที่ตั้งของ "ศาลเสด็จแม่นกเอี้ยงและศาลเสด็จพ่อไหฮอง" ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อบูชาพระราชมารดาและพระราชบิดาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ที่ตั้ง
ตั้งอยู่บนเนินบริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิงด้านตะวันตกถัดจากวัดพระนารายณ์ไปประมาณ ๓๐๐ เมตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น